วันนี้มีงานใหม่มาฝากกันอีกแล้ว กับเดบิวท์ EP ของ Mirror Signal หรือที่รู้จักกันในชื่อจริงว่า Steven Barker สำหรับ EP นี้ก็ถือเป็นงานชุดแรกของเขาเลยทีเดียว ด้วยสไตล์งานที่ผสมผสานระหว่าง acid jazz, soul, hip hop และ folk เข้าไว้ด้วยกัน
เริ่มที่แทร็คแรกที่เราได้ลองฟัง มีชื่อเดียวกับ EP เลยว่า Broken Soldier แค่ฟังดนตรีก็รู้เลยว่าเป็นการผสมผสานระหว่าง acid jazz และ soul อย่างที่ว่าไว้จริงๆ ด้วยท่วงทำนองที่คุ้นเคยดีของ acid jazz บวกกับวิธีการร้องแบบ soul เรียกได้ว่าทุกอย่างลงตัวเป๊ะ
อีกแทร็คที่อยากจะแนะนำก็คือ I’ve Changed My Signature ที่ดนตรีเข้มข้นไปในทาง hip hop มากขึ้น แต่วิธีการร้องและเสียงประสานยังคงเป็น soul เหมือนเดิม สำหรับแทร็คนี้พูดได้เลยว่าใครที่ติดใจเพลง hip hop ช้าๆแบบเท่ๆ จะต้องชอบมันได้ไม่ยากเลยละ
ไม่แน่ใจว่าเสียงของพ่อหนุ่มคนนี้จะจัดเป็น black voice ได้มั้ย แต่คิดว่าน่าจะได้ละกัน เพราะเราก็ชอบเสียงของเขาเอาการอยู่ เป็นเสียงที่แหบนิดๆแต่มีเสน่ห์เหลือร้ายเลยละ
เราคงต้องบอกว่าในบรรดาสรรพเสียงสำเนียงของนักร้องทั้งชายหญิงจากทั่วโลกเนี่ย เสียงในแบบที่เราชอบมากที่สุดเห็นจะได้แก่เสียงของคนดำ หรือที่เรียกกันเป็นภาษาฝรั่งเก๋ๆว่า black voice นี่เอง จะด้วยเหตุผลกลใดเราก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ทุกๆครั้งที่เราได้ฟังเสียงคนดำ เราจะรู้สึกถึงความแหบห้าวในเนื้อเสียง เหมือนมันมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนตัวอยู่ในกระแสเสียงนั้นที่ทำให้เรารู้ว่านี่แหละคือ black voice
ในวันนี้เราอยากจะขอแนะนำ black voice ของพวกเธอเหล่านี้ให้ได้รู้จักกัน แน่นอนว่าเสียงของพวกเธออาจจะไม่ใช่เสียงที่คุ้นเคยสำหรับผู้ฟังชาวไทยเท่าไหร่นัก แต่เราขอการันตีตรงนี้เลยว่าหากได้ลองฟังแล้ว คุณจะหลงใหลในเสียงของพวกเธอเหมือนกันกับเรา
เริ่มกันที่คนแรก สาว Ntjam Rosie นักร้องแจ๊สสายเลือดแคเมอรูนที่ไปเติบโตได้ดิบได้ดีในเนเธอร์แลนด์ กับงานในอัลบั้มล่าสุดของเธอที่มีชื่อว่า At the back of beyond งานชุดใหม่นี้ออกกับค่าย Gentle Daze ที่เธอเป็นเจ้าของเองซะด้วย เราจะพาคุณย้อนไปที่ปี 2011 กับงานของเธอจากอัลบั้ม Elle
วกกลับมาที่อัลบั้มล่าสุดของเธอกับแทร็คที่มีชื่อว่า Love Is Calling ซึ่งปล่อยออกมาให้ฟังกันเมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมานี้เอง ส่วนตัวรู้สึกว่าดีกรีความเป็นแจ๊สถูกลดระดับลงไปเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่นั่นก็เป็นธรรมดาของแจ๊สจากแถบยุโรปอยู่แล้ว ที่มักจะถูกจับไปผสมผสานกับอะไรก็ได้ที่เห็นว่ามันเข้ากัน สุดท้ายก็ออกมาเป็นแจ๊สรสชาติแปลกๆแต่เก๋ไม่หยอกแบบนี้แหละ
มาต่อกันที่สาวคนถัดไปเลยดีกว่าค่ะ เธอมีชื่อว่า Irma น่าบังเอิญเหมือนกันที่เธอก็มีที่มาเดียวกันกับ Ntjam คือประเทศแคเมอรูน แต่ต่างกันตรงที่เธอคนนี้มาเติบโตที่ฝรั่งเศสค่ะ เธอเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่ผลิตผลงานเพลงแนวบลูส์ โฟล์ค ป็อบ และบัลลาด งานอัลบั้มแรกของเธอในปี 2011 มีชื่อว่า Letter to the Lord มากับซิงเกิลสุดฮิตอย่าง I Know
ถ้าได้ดู mv จะเห็นว่าเธอมากความสามารถจริงๆ ทั้งกลอง กีต้าร์ ร้องเองแต่งเองเสร็จสรรพ จุดเด่นของเพลงเราคิดว่าอยู่ที่การใส่ sampler ของเพลง Ain’t No Sunshine เข้าไปได้อย่างเหมาะเจาะ ในท่อนที่ร้องว่า I know ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งมันก็ตรงกับชื่อเพลงอย่างพอดิบพอดีเลย
เอาละ สำหรับสาวคนสุดท้ายของวันนี้ แต่ยังไม่ใช่ท้ายสุดในบรรดาสาวผิวดำเสียงสวยนะ เพราะเราจะมาแนะนำสาวๆที่เหลือกันต่อในโอกาสหน้า เธอคือ Giovanca สาวผิวดำจากเนเธอร์แลนด์ งานเพลงของเธอต้องบอกว่าเก๋ไก๋ของแท้เลย เป็นส่วนผสมของนีโอ-โซลกับยูโรเปี้ยนแจ๊ส ก็จะไม่ให้เก๋ได้ยังไงในเมื่อเธออยู่ในค่ายเพลงอย่าง DoxAmsterdam ที่ผลิตแต่งานเพลงเก๋ๆทั้งนั้น (ไว้วันหลังจะมาแนะนำศิลปินเบอร์อื่นในค่ายให้ได้รู้จักกัน) เธอเริ่มเดินในเส้นทางนี้ตั้งแต่ปี 2007 แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ เพิ่งจะมาเป็นที่จับตามองเมื่อย่างเข้าอัลบั้มสองที่ชื่อว่า Subway Silence นี่แหละ กับเพลง On My Way ที่เรียกว่าเป็นแทร็คเปิดตัวสำหรับอัลบั้มสองที่ทำให้เธอโดดเด่นขึ้นกว่าเก่ามาก
สำหรับอัลบั้มล่าสุดในปี 2010 ที่ชื่อ While I’m Awake ก็มีแทร็คฮิตอย่าง Drop It มาเป็นตัวเชิดหน้าชูตา กลิ่นอายของโซลตลบอบอวลไปทั้งอัลบั้มเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีลีลาของยูโรเปี้ยนแจ๊สแฝงตัวอยู่ตามซอกหลืบเล็กๆอย่างน่ารักและพอเหมาะพอเจาะ
สิ่งที่เรากำลังรอคอยตอนนี้คืออัลบั้มใหม่ล่าสุดของเธอที่จะออกมาในหน้าร้อนปีนี้ แน่นอนว่าเราคาดหวังกับมันไว้มากพอสมควร เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของเธอทั้งที่ดังและไม่ดังเป็นผลงานที่เรียกได้ว่ากราฟไม่ตกเลย ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลอย่าง Joyride หรือ Hynotize You เราก็เลยต้องคาดหวังไว้เป็นธรรมดา